login | register    

application form | logout

        
   
 
News  & Activity
 
 

 

 
 
 
 
 

 

 
 
 
 
 

 

 
 
 
 
 

 

 
 
 
 
 

 

 
 
 
 
 

รู้ไว้นะ ปฏิบัติตนอย่างไรให้ปลอดภัยจากพายุ

นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกทม. แจ้งว่า ด้วยระหว่างเดือนพ.ค.ถึงส.ค.ของทุกปีเป็นช่วงฤดูฝน ซึ่งจะเกิดพายุหมุนเขตร้อน ลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง และน้ำล้นตลิ่งจนอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กทม.มีความห่วงใยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนเตรียมการและหลบเลี่ยงอันตรายจากพายุหมุนเขตร้อนและฝนฟ้าคะนองดังนี้ เมื่อเกิดลมพายุหมุนหรือฝนฟ้าคะนองให้อยู่ห่างจากสิ่งที่อาจโค่นล้มได้ เช่นป้ายโฆษณา ต้นไม้ และเสาไฟฟ้า เป็นต้น ขณะที่เกิดพายุหมุนหรือฝนฟ้าคะนองควรอยู่ในอาคารบ้านเรือนที่มีความมั่นคงแข็งแรงจนกว่าสถานการณ์จะยุติลง ถ้าอยู่ในตึกหรืออาคารสูงให้หลีกเลี่ยงการใช้ลิฟท์ขึ้นลงและควรใช้บันไดแทน เนื่องจากอาจเกิดไฟฟ้าดับทำให้ติดค้างอยู่ในลิฟท์ได้ กรณีที่อยู่ในที่โล่งแจ้งไม่ควรหลบใต้ต้นไม้หรือเพิงพักที่อยู่โดดเดี่ยว และควรหลีกเลี่ยงหรือระงับการทำกิจกรรมกลางแจ้งทันทีเนื่องจากพื้นที่ที่เปียกและวัสดุที่สูงหรืออยู่โดดเดี่ยวจะเป็นสื่อล่อฟ้าและเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าได้มากขึ้น ควรให้คำแนะนำบุตรหลาน เด็กเล็กให้อยู่ห่างจากวัตถุที่เป็นสื่อไฟฟ้าทุกชนิด เช่น ลวดโลหะ ท่อน้ำ แนวรั้วบ้าน อุปกรณ์ทำสวน เป็นต้น นายจักกพันธุ์ กล่าวต่อว่ากรณีที่พบเห็นสายไฟฟ้าหรือสายโทรศัพท์ชำรุด ไม่ควรหยิบจับหรือเข้าใกล้ เพราะอาจจะเป็นอันตรายจากการถูกไฟฟ้าดูดได้ และควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มาดำเนินการแก้ไข ไม่ควรใส่เครื่องประดับหรือวัตถุโลหะในที่โล่งแจ้งในขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง เพราะวัตถุดังกล่าวจะเป็นสื่อให้เกิดฟ้าผ่าลงมาที่ตัวได้ ควรงดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์ โทรศัพท์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ชั่วคราว ยกเว้น ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพราะฟ้าอาจผ่าลงมาที่เครื่องโทรทัศน์และโทรศัพท์ได้ ควรดูแลสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายนอกบ้านให้อยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยเสมอ โดยเฉพาะสิ่งที่อาจโค่นหักหรือพังลงมาทับบ้านหรือผู้อยู่อาศัย หากพบเห็นกิ่งไม้ที่ไม่แข็งแรงพาดอยู่บนสายไฟ หรือพบเห็นสิ่งปลูกสร้างใดๆ ที่ไม่แข็งแรง และอาจเกิดการโค่นล้มจากลมพายุได้ ให้รีบแจ้งศูนย์ดับเพลิงและกู้ภัย โทร. 199 หรือแจ้งที่สำนักงานเขตท้องที่ เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป ที่มา : thaiquote

 

 
 
 
 
 

เลิกร้อน ! อุตุฯประกาศฤดูฝนมาแล้ว คาดกลางตุลาฯสิ้นสุด

หลังจากที่ทนร้อนกันมานาน กระทั่งส่งผลต่อวิถีชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะกับบรรดาเกษตรกรที่ประสบกับปัญหาจากน้ำในการทำการเกษตร ขณะนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับคนไทยทั้งประเทศ เมื่อ นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา มีประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่อง การเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทย พ.ศ. 2559 โดยระบุว่าฤดูฝนของประเทศไทยในปีนี้ได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 59 เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยได้เปลี่ยนเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ พัดพาความชื้นจากทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยต่อเนื่อง ส่วนลมระดับบนได้เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออกพัดปกคลุม ประกอบกับประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องเกือบทั่วไป อย่างไรก็ตามในช่วงต้นฤดู การกระจายของฝนจะไม่สม่ำเสมอโดยจะมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะครึ่งหลังของฤดู และจะสิ้นสุดฤดูฝนประมาณกลางเดือนตุลาคมแต่ในภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกจะยังคงมีฝนตกต่อไปอีกถึงเดือนธันวาคม จึงขอประกาศให้ประชาชนทราบทั่วกัน

 

 
 
 
 
 

กลุ่มแบงก์ฟันกำไรพุงปลิ้น ปี'56โต25%

จากรวบรวมข้อมูลกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่รายงานผลประกอบการงวดปี 2556 มีกำไรสุทธิรวม 2.01แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 25.75% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1.60 แสนล้านบาท โดยธนาคารที่กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นมากสุดได้แก่ ธนาคารทหารไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้น 354.96%รองลงมาธนาคารธนชาต เพิ่มขึ้น 67.53% และธนาคารกรุงไทยเพิ่มขึ้น 45.20%

 

 
 
 
 
 

ตัน” ลาก “อิชิตัน” เข้าตลาด ก.พ.นี้ โวขึ้นแชมป์ชาเขียว 42% โค่นโออิชิ

“อิชิตัน” พร้อมเข้าตลาดก.พ.นี้ มองธุรกิจยังต้องเดินหน้าภายใต้ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น เชื่อไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ล่าสุดเตรียมส่ง “อิชิตัน ซีเล็คเต็ด” ชาสูตรหวานน้อย เจาะคนรักสุขภาพ ดันเป้ารายได้ปีนี้โตอีก 20% ทะลุ 7,000 ล้านบาท ส่งตลาดรวมชาเขียวพร้อมดื่มปีนี้โต 20% สู่ 19,800 ล้านบาท นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายในเดือนก.พ.นี้ บริษัทพร้อมจะเข้าตลาดหลักทรัพย์แน่นอนโดยจะไม่มีการเลื่อนออกไปอีกแล้ว ถึงแม้ว่าขณะนี้จะมีปัญหาการชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้นก็ตาม โดยมองว่าปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น คนไทยยอมรับได้ และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรือครั้งสุดท้าย ที่สำคัญธุรกิจยังต้องเดินหน้า บริษัทจึงพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเดือนหน้าตามแผนที่วางไว้ ด้วยทุนจดทะเบียนบริษัทในขณะนี้ คือ 1,000 ล้านบาท มีไอพีโออยู่ที่ 300 ล้านหุ้น

 

 
 
 
 
 

แฟชั่นหรูแตกไลน์ธุรกิจ

แฟชั่นหรูสบช่องไลฟ์สไตล์เปลี่ยน-ตลาดอสังหาฯบูม-คนรุ่นใหม่กำลังซื้อสูง-ไลฟ์สไตล์เก๋ แห่แตกไลน์ธุรกิจของใช้ตกแต่งบ้านเอาใจสาวก "แฟชั่นนิสต้า" ฟาสต์แฟชั่นรายใหญ่ ผุด "ซาร่า โฮม" เล็งขยายสาขาเพิ่ม ด้านผู้นำเข้ารายใหญ่"ดีเอ็ม โฮม" เล็งขน 2 แบรนด์ใหม่เสริมทัพกลางปี พร้อมใจส่งคอลเล็กชั่นใหม่ปีละ 2 ครั้งเอาใจแฟนคลับ ปัจจุบัน "แฟชั่น" ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้น ทั้งเครื่องแต่งกาย แอ็กเซสเซอรี่ สินค้า ฯลฯ เพื่อบ่งบอกรสนิยมและตัวตนของผู้ใช้ รับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มากขึ้น เปิดโอกาสให้แบรนด์แฟชั่นต่าง ๆ ที่มีกลุ่มลูกค้าอย่างเหนียวแน่น เริ่มแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่กำลังเป็นเทรนด์ฮอตฮิตขณะนี้ คือ ของใช้ตกแต่งบ้าน หรือ "โฮมเดคอร์" เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่มากขึ้น

 

 
 
 
 
 

เทสโก้ โลตัส ฉลุยคอนเซปต์ “ร้านค้าปลอดถุง”

เทสโก้ โลตัส เดินหน้ากระตุ้นสำนึกเพื่อสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง หลังประเดิมสาขานำร่องคอนเซ็ปต์ใหม่ “ร้านค้าปลอดถุงพลาสติก” ที่เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส สาขาบ้านใสยวน อ.เมือง จ.ภูเก็ต และสาขาตลาดแหลมดิน เกาะสมุย ซึ่งปรากฏว่าลูกค้าคนไทยและต่างชาติให้การตอบรับดีเกินคาด เผยผลสำเร็จพกถุงผ้ามาชอป เป็นผลจากกลยุทธ์ซีเอสอาร์ที่ขับเคลื่อนให้เปลี่ยนพฤติกรรมทั้งพนักงาน และลูกค้า เทสโก้ โลตัส ฉลุยคอนเซปต์ “ร้านค้าปลอดถุง” แต้มกรีนพอยท์นี้ จะใช้คู่กับบัตรคลับการ์ดของเทสโก้ โลตัส

 

 
 
 
 
 

เอกชนวูบเป้าปี 2556 หลากวิกฤตยุค “ปู” ฟาด

ปี 2556 ที่ผ่านพ้นไปนั้น ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่ธุรกิจของภาคเอกชนทั้งหลายต้องฝ่าฟันวิกฤตต่างๆ ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงปลายปีก็ว่าได้ จากหลากหลายปัญหา สารพันปัจจัยลบที่ถาโถมเข้าใส่ ขวากหนามที่สำคัญ แน่นอนว่าไม่พ้นเรื่องความวุ่นวายทางการเมืองที่แม้ว่าจะเพิ่งเกิดในช่วงไตรมาสที่สี่นี้ก็ตาม จากการขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากตำแหน่ง ขณะที่ปัจจัยลบตั้งแต่ต้นปีมาไล่เรียงกันตั้งแต่ วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่กระทบต่อไทย การส่งออกของไทยที่ลดลง กำลังซื้อของผู้บริโภคหดตัวลง จากโครงการรถคันแรกที่ยังกระทบชิ่งไม่แพ้กับค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลน้อยลงส่งผลต่อความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจที่ลดลงด้วย ธุรกิจเอกชนหลายสาขาต่างก็ประสบกับปัญหายอดขาย รายได้และกำไรต่ำกว่าเป้าหมายกันเป็นทิวแถว หรือแม้แต่ในแง่ภาพรวมตลาดธุรกิจก็เจ็บตัวไม่แพ้กัน

 

 
 
 
 
 

ธุรกิจของขวัญสวนม็อบ ปีนี้ลุ้น8%-ตลาดตปท.บูม

ตลาดของขวัญกระเตื้องขึ้นปลายธันวาคม หลังอืดเพราะปัญหาชุมนุมทางการเมืองช่วงแรก ชี้ภาพรวมปีนี้ตลาดรวมสินค้าไลฟ์สไตล์ยังคงโตได้อีก 5% หรือทะยานสู่ 8% ก็เป็นได้ ปัจจัยบวกหนุนทั้งค่าเงินบาท ตลาดตปท.ดี นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน และเลขาธิการสมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย เปิดเผยว่า ตลาดรวมของธุรกิจผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ในไทยในปี 2557 นี้ เท่าที่มีการประเมินกันในสมาพันธ์ฯคาดว่า ในปี 2557 นี้ตลาดรวมจะยังคงมีการเติบโตประมาณ 5% ซึ่งมากกว่าเล็กน้อยจากปี 2556 ที่เติบโต 3-4%

 

 
 
 
 
 

ทุนไทยรุกสนามการค้าเออีซี ปตท.-ซีพี-สหพัฒน์ ซื้ออนาคตต่อยอดธุรกิจ พม่า-ลาว-อินโดฯบูม

ทัพธุรกิจไทยแห่บุกตลาดเพื่อนบ้าน เปิดสนามการค้ารับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนไม่หยุด ปตท.ปั้นแบรนด์เจาะพม่า ลาว อินโดฯ ซี.พี.กางโรดแมปขยายลงทุนดันรายได้ 1 ล้านล้าน TUF รุกใหญ่ไม่น้อยหน้า สหพัฒน์ต่อยอดลงทุนพม่าต่อเนื่องวาดฝัน "มาม่า" ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่ง ใน 3-5 ปี ยักษ์ใหญ่ "เบอร์ลี่ ยุคเกอร์-ยูนิลีเวอร์-พีแอนด์จี" ลุยขยายฐานไม่ยั้ง ด้านโมเดิร์นเทรดวัสดุอสังหาฯ "โฮมโปร-ศุภาลัย" แบงก์พาณิชย์แข่งหนักยุทธศาสตร์โกอินเตอร์ กระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกยุคใหม่ พลิกโฉมหน้าการทำธุรกิจการค้า การลงทุนแบบเดิม ๆ สู่การดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ ตลาดและช่องทางระบายสินค้าครอบคลุมกว้างขวางเสมือนหนึ่งไร้พรมแดน แม้ปัญหาอุปสรรคและการแข่งขันจะมีสูง แต่ก็เป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่สามารถพลิกวิกฤตขยายฐานตลาดสร้างมูลค่าเพิ่มปั้นรายได้ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด ไม่แปลกที่ผู้ประกอบการหลากหลายสาขาต่างดิ้นรนขยับขยายการลงทุนจากในประเทศสู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยจำนวนมากแห่เข้าไปปักหลักลงทุนในต่างประเทศเป็นเทรนด์ใหม่ที่มาแรง ทั้งในกลุ่มประเทศอินโดจีน อาเซียน เอเชีย หรือแม้แต่ในยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง รวมทั้งแอฟริกา มูลค่าลงทุนรวมนับแสนล้านบาท รองรับการเติบโตของตลาดช่วงการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) เกิดขึ้นสมบูรณ์แบบในปี 2558 รวมทั้งเชื่อมโยงกับตลาดจีน อินเดีย ฯลฯ ทำเพื่อช่วงชิงโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขัน เนื่องจากในอนาคต การเชื่อมความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุน การเดินทาง และการท่องเที่ยวจะมีมากขึ้น

 

 
 
 
 
 

สตาร์บัคส์รุกภาคกลางตอนบน ลั่นเพิ่มสาขา3เท่าใน3ปีทั่วไทย

“สตาร์บัคส์คอฟฟี่” วางเป้าหมายปีนี้ผุด 20 สาขาใหม่ พร้อมจะเปิดระดับนี้ทุกปี มั่นใจอีก 3 ปีขยายสาขาเพิ่มเป็น 3 เท่า จาก 178 สาขาตอนนี้ ล่าสุดปักธงตลาดภาคกลางตอนบน เปิดสาขาที่อยุธยาซิตี้พาร์ค ดีไซน์ใหม่ไม่เหมือนสตาร์บัคส์ทั่วโลก นายเมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจของสตาร์บัคส์ในประเทศไทย ว่า ปีนี้บริษัทฯวางแผนขยายสาขาของร้านสตาร์บัคส์ให้ได้ประมาณ 20 สาขา ทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีร้านสตาร์บัคส์เปิดบริการแล้วประมาณ 178 สาขา และตั้งเป้าหมายว่าจากนี้ไปจะพยายามเปิดสาขาใหม่ให้ได้เฉลี่ยปีละประมาณ 20 สาขาตลอดไป โดยมีเป้าหมายระยะยาวจากนี้อีก 3 ปีจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าจากขณะนี้ ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใสและเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ซึ่งสตาร์บัคส์เองก็เปิดให้บริการในไทยมากว่า 15 ปี วันนี้มีสาขารวม 178 สาขา ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของคอกาแฟไทย ที่กรุงเทพฯ สตาร์บัคส์เป็นผู้นำทางด้านกาแฟชั้นนำพร้อมเสิร์ฟในเมืองไทย

 

 
 
 
 
       
Untitled Document